10 ปัจจัยสำคัญ ในการเลือกทำเลที่มีโอกาสเติบโตสูง

การเลือกทำเลที่ตั้งสถานประกอบธุรกิจนั้นถือเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อความสำเร็จของธุรกิจเป็นอย่างมาก เนื่องจากหากเลือกทำเลที่ไม่เหมาะสมแล้ว อาจก่อให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมาได้ในภายหลัง เช่น ค่าใช้จ่ายในการขนส่งที่สูงขึ้น ถ้าสถานประกอบการตั้งอยู่ห่างไกลจากแหล่งวัตถุดิบและตลาด ทำให้เสียค่าขนส่งมากกว่าปกติ ส่งผลกระทบต่อต้นทุนและผลกำไรที่จะได้รับ การขาดแคลนแรงงานคุณภาพ 

หากทำเลที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่ไม่ได้รับความนิยม คนงานฝีมือดีอาจไม่อยากเข้ามาทำงาน เนื่องจากไม่สะดวกในการเดินทาง ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกเพียงพอ หรืออยู่ห่างไกลจากแหล่งชุมชน ปัญหาการขาดแคลนวัตถุดิบ ถ้าที่ตั้งอยู่ห่างไกลจากแหล่งวัตถุดิบหลัก 

อาจทำให้ต้องใช้เวลาในการสั่งซื้อและรอคอยนานกว่าปกติ ซึ่งจะส่งผลให้การผลิตหยุดชะงักหรือล่าช้าได้ รวมถึงปัญหาจากปัจจัยแวดล้อมต่างๆ เช่น หากเลือกที่ตั้งในพื้นที่เสี่ยงภัยธรรมชาติ พื้นที่มีน้ำท่วมขัง หรือปัญหามลพิษ ก็จะสร้างความยากลำบากในการประกอบกิจการได้

ดังนั้น การเลือกทำเลที่ตั้งจึงจำเป็นต้องพิจารณาหลายปัจจัยประกอบกัน ไม่ว่าจะเป็นลักษณะของธุรกิจและสินค้า ค่าใช้จ่ายในการลงทุน ความพร้อมของทรัพยากรในบริเวณนั้น รวมถึงแผนการตลาดในอนาคต เพื่อให้ได้ทำเลที่มีต้นทุนการผลิตที่เหมาะสมที่สุด และมีความเสี่ยงในการประกอบการต่ำที่สุด 

นอกจากนี้การเลือกทำเลที่ตั้งยังส่งผลต่อการวางแผนงานในด้านอื่นๆ ขององค์กรด้วย ทั้งในส่วนของแผนการผลิต การออกแบบผังโรงงาน แผนการตลาด การกำหนดเป้าหมายการลงทุนและรายได้ เป็นต้น ซึ่งถ้าเลือกทำเลได้เหมาะสมก็จะช่วยให้การวางแผนเหล่านี้ทำได้ง่ายขึ้น มีความชัดเจน นำไปสู่แนวทางปฏิบัติที่มีประสิทธิภาพและสอดคล้องกันทั่วทั้งองค์กร

เพราะฉะนั้นองค์กรธุรกิจจึงควรให้ความสำคัญและใช้เวลาในการพิจารณาเลือกสถานที่ตั้งโดยละเอียดรอบคอบ ชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสียของแต่ละปัจจัยทั้งในปัจจุบันและอนาคต เพื่อให้ได้ทำเลที่จะสนับสนุนให้ธุรกิจสามารถดำเนินงานได้อย่างคล่องตัว และเติบโตอย่างแข็งแกร่งได้ในระยะยาว

การเลือกทำเลที่มีโอกาสเติบโตสูง คืออะไร?

การเลือกทำเลที่มีโอกาสเติบโตสูง คือ การเลือกทำเลที่มีแนวโน้มในการพัฒนาและความเจริญก้าวหน้าในอนาคต ซึ่งจะส่งผลให้ที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ในบริเวณนั้นมีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำเลที่มีโอกาสเติบโตสูงมักมีลักษณะดังนี้

  • เป็นแหล่งธุรกิจและเศรษฐกิจสำคัญ มีการลงทุนและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เช่น เขตเศรษฐกิจพิเศษ นิคมอุตสาหกรรม ย่านธุรกิจใหม่ เป็นต้น
  • มีการพัฒนาระบบคมนาคมและโครงสร้างพื้นฐานที่ดี เช่น ถนน ทางด่วน รถไฟฟ้า ท่าเรือ สนามบิน ทำให้การเดินทางสะดวกและเชื่อมต่อกับพื้นที่อื่นๆ ได้ง่าย
  • อยู่ใกล้แหล่งชุมชน สถานศึกษา โรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้า แหล่งท่องเที่ยว ที่มีกำลังซื้อสูงและมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
  • เป็นพื้นที่ที่ภาครัฐมีนโยบายส่งเสริมการลงทุนและพัฒนาในระยะยาว เช่น พื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เป็นต้น
  • มีความต้องการที่อยู่อาศัยและการใช้พื้นที่เพื่อประกอบธุรกิจสูง ราคาที่ดินและอสังหาริมทรัพย์มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ

การเลือกทำเลที่มีโอกาสเติบโตสูง จะช่วยสร้างโอกาสในการได้รับผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ในระยะยาว เนื่องจากมูลค่าของที่ดินและทรัพย์สินจะเพิ่มสูงขึ้นตามการเติบโตและความเจริญของพื้นที่ อย่างไรก็ตาม นอกจากพิจารณาเรื่องของการเติบโตแล้ว 

ยังต้องพิจารณาปัจจัยอื่นๆ ประกอบด้วย เช่น ราคา งบประมาณ ความเหมาะสมกับการอยู่อาศัย ความปลอดภัย สภาพแวดล้อม เป็นต้น เพื่อให้ได้ทำเลที่ตอบโจทย์ทั้งความต้องการส่วนตัว ศักยภาพในการอยู่อาศัย และโอกาสในการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุด

10 ปัจจัยสำคัญ ในการเลือกทำเลที่มีโอกาสเติบโตสูง

10 ปัจจัยสำคัญที่มีผลมากที่สุด ในการเลือกทำเลที่มีโอกาสเติบโตสูง อ้างอิงได้จาก DDproperty ได้เปิดเผยผลการสำรวจความพึงพอใจของผู้บริโภค (Consumer Sentiment Survey) ในช่วงครึ่งหลังของปี 2560 

ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจพฤติกรรมและความต้องการของกลุ่มคนที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัย ว่าให้ความสำคัญกับปัจจัยใดมากที่สุด โดยผลสำรวจชี้ให้เห็น 10 ปัจจัยหลักจากทั้งหมด 17 ปัจจัย เรียงตามลำดับจากที่ผู้บริโภคให้ความสนใจมากที่สุดไปจนถึงน้อยที่สุด ซึ่งข้อมูลดังกล่าวนี้สามารถสะท้อนมุมมองของตลาดที่อยู่อาศัยในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี 

และยังเป็นประโยชน์ต่อทั้งผู้ประกอบการและผู้บริโภคในการนำไปวางแผนกลยุทธ์การตลาดและการตัดสินใจเลือกซื้อที่อยู่อาศัยต่อไปในอนาคต 

ทั้งนี้ ผลสำรวจความพึงพอใจของผู้บริโภคโดย DDproperty ถือเป็นข้อมูลเชิงลึกที่มีความน่าเชื่อถือ เนื่องจากมาจากกลุ่มตัวอย่างขนาดใหญ่และมีการเก็บข้อมูลอย่างเป็นระบบ จึงสามารถใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงเพื่อการวิเคราะห์และคาดการณ์ทิศทางของตลาดอสังหาริมทรัพย์ได้อย่างแม่นยำมากยิ่งขึ้น

มีปัจจัยสำคัญ ดังนี้

  • 1. ทำเล
  • 2. ศักยภาพทำเลในอนาคต
  • 3. ความปลอดภัยบนพื้นที่
  • 4. ราคา
  • 5. การเข้าถึงระบบขนส่งสาธารณะ
  • 6. ดีไซน์ที่อยู่อาศัย
  • 7. พื้นที่ใช้สอยของที่อยู่อาศัย
  • 8. ความสามารถทางการเงินในการเลือกซื้อที่อยู่อาศัย
  • 9. สิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการ
  • 10.ใกล้ชิดรถไฟฟ้า

ทำเล

ทำเลยังคงเป็นปัจจัยอันดับ 1 ในการเลือกซื้ออสังหาริมทรัพย์ โดยคนส่วนใหญ่จะเลือกทำเลให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์มากกว่าเน้นความเจริญ เพราะราคาที่สูงเกินไป ทำเลที่ได้รับความนิยมมักอยู่ใกล้ทางด่วนหรือรถไฟฟ้า ซึ่งสะดวกในการเดินทาง 

การเลือกทำเลที่ดีจะเป็นตัวกำหนดความสะดวกสบายในชีวิตประจำวัน แต่ก็ต้องแลกมากับราคาที่สูงขึ้นเช่นกัน เหมาะสำหรับคนที่มีกำลังซื้อและต้องการความคล่องตัวในการเดินทาง

ศักยภาพของทำเลในอนาคต

ปัจจุบันคนให้ความสนใจศักยภาพการพัฒนาของทำเลในอนาคตมากขึ้น เพื่อให้ได้ผลตอบแทนจากมูลค่าที่เพิ่มขึ้น การเลือกทำเลที่มีแนวโน้มได้รับการพัฒนา จะเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว แต่ต้องอาศัยการวิเคราะห์และคาดการณ์ที่แม่นยำ เหมาะกับคนที่มีเป้าหมายปล่อยเช่าหรือขายต่อในอนาคต

ความปลอดภัยบนทำเล

เมื่อโครงการอสังหาฯ ขยายตัวไปสู่ชานเมืองมากขึ้น ทำให้ต้องให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของทำเลด้วย เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้อยู่อาศัย การเลือกซื้อบ้านในทำเลที่ปลอดภัย อาจมีราคาสูงกว่าแต่ก็คุ้มค่ากับชีวิตและทรัพย์สิน เหมาะกับครอบครัวที่มีเด็กหรือผู้สูงอายุ

ราคา

คนส่วนใหญ่มักมองว่าราคาเป็นปัจจัยหลักในการตัดสินใจซื้อ แต่จริงๆแล้ว ราคาเป็นเรื่องของความคุ้มค่าที่ได้รับ คนยุคนี้ยอมจ่ายแพงขึ้นเพื่อแลกกับความสะดวกสบาย ที่อยู่อาศัยในช่วงราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท 

จึงเป็นที่ต้องการของตลาด การกำหนดงบประมาณที่เหมาะสม จะทำให้เลือกบ้านได้ตรงกับความต้องการโดยไม่เป็นภาระทางการเงินในอนาคต

การเข้าถึงระบบขนส่งสาธารณะ

ความสามารถในการเดินทางเชื่อมต่อกับระบบขนส่งสาธารณะต่างๆ ทั้งรถไฟฟ้า แท็กซี่ ทางด่วน เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับวิถีชีวิตคนเมือง บ้านที่อยู่ใกล้ระบบขนส่งจะมีความสะดวกสบายมากกว่า แต่ก็มักมีราคาแพง การเลือกให้สมดุลระหว่างความสะดวกและค่าใช้จ่าย มีความสำคัญสำหรับการใช้ชีวิตในระยะยาว

ดีไซน์ที่อยู่อาศัย

การออกแบบที่อยู่อาศัยให้สวยงาม ทันสมัย กำลังมาแรงและมีผลต่อการตัดสินใจเลือกซื้อมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะภาพลักษณ์สามารถสร้างความประทับใจ ความรู้สึกพึงพอใจในการอยู่อาศัยได้ แต่ก็ไม่ควรละเลยประโยชน์ใช้สอยที่จำเป็น การเลือกดีไซน์บ้านที่ถูกใจและใช้งานได้ดี จะทำให้อยู่อาศัยได้อย่างมีความสุข เหมาะกับคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบความโมเดิร์น

พื้นที่ใช้สอยภายในบ้าน

แม้วันนี้คนจะเน้นเรื่องทำเลมากกว่าพื้นที่ใช้สอย แต่สำหรับครอบครัวที่มีแผนในอนาคต การเลือกบ้านที่มีขนาดเหมาะสม สามารถขยายเพิ่มเติมได้ ยังคงมีความจำเป็น เพื่อรองรับการขยายตัวของครอบครัว พื้นที่ใช้สอยควรสอดคล้องกับจำนวนสมาชิกและไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัย แต่ต้องพิจารณาให้สมดุลกับงบประมาณด้วย

ความสามารถทางการเงิน

ถึงแม้จะเป็นปัจจัยที่หลายคนมักพิจารณาเป็นอันดับแรก แต่ด้วยข้อมูลข่าวสารที่เข้าถึงง่ายในปัจจุบัน ทำให้สามารถค้นหาบ้านในทำเลและราคาที่ต้องการได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น การวางแผนทางการเงินที่รัดกุม ศึกษารายละเอียดเรื่องสินเชื่อ จะช่วยให้สามารถซื้อที่อยู่อาศัยได้โดยไม่เกินตัว

สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ

กลายเป็นปัจจัยที่มีความสำคัญน้อยลง เพราะวิถีชีวิตของคนในยุคนี้มักใช้เวลาส่วนใหญ่นอกบ้าน ไม่ค่อยได้ใช้ประโยชน์จากพื้นที่ส่วนกลางมากนัก จึงอาจไม่คุ้มค่ากับเงินที่ต้องจ่ายไป แต่ถ้าเป็นครอบครัวใหญ่ที่ต้องการใช้เวลาร่วมกัน ส่วนกลางที่ครบครันก็ยังมีความจำเป็น ควรพิจารณาสิ่งอำนวยความสะดวกให้เหมาะกับการใช้งานจริง

ใกล้รถไฟฟ้า หรือ จุกบริการขึ้นรถ

แม้ที่อยู่อาศัยใกล้รถไฟฟ้าจะมีข้อดีด้านความสะดวก แต่ด้วยราคาที่สูงอาจไม่คุ้มค่า โดยเฉพาะโครงการในพื้นที่ต่อขยาย ที่มีราคาสูงแต่ขนาดห้องเล็ก คนที่มีรถยนต์ส่วนตัวมักเลือกบ้านที่ใกล้ทางด่วนหรือระบบขนส่งอื่นมากกว่า เพราะยังสามารถต่อไปยังรถไฟฟ้าหรือที่อื่นได้อยู่ดี จึงอาจไม่จำเป็นต้องซื้อบ้านติดรถไฟฟ้าเสมอไป

ดังนั้น การเลือกซื้อที่อยู่อาศัยในปัจจุบัน ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับหลายปัจจัยมากขึ้น ทั้งเรื่องทำเล ราคา ความปลอดภัย ระบบขนส่ง ดีไซน์ พื้นที่ใช้สอย สิ่งอำนวยความสะดวก ซึ่งมีทั้งข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับรูปแบบการใช้ชีวิตและความต้องการของแต่ละคน 

ดังนั้น ผู้ซื้อจึงควรพิจารณาองค์ประกอบต่างๆ ให้รอบด้าน ชั่งน้ำหนักถึงความเหมาะสมให้สอดคล้องกับความต้องการส่วนตัวและสถานภาพทางการเงิน เพื่อให้ได้ที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์ทั้งในเรื่องการอยู่อาศัยและการลงทุนในอนาคต

ตัวอย่างของการเลือกทำเลที่มีโอกาสเติบโตสูง

โดยพิจารณาจากปัจจัยสำคัญต่างๆ มีดังนี้

  1. ทำเลย่านพระราม 9 ถือเป็นทำเลศักยภาพ เนื่องจากอยู่ใจกลางเมือง มีความสะดวกในการคมนาคมด้วยรถไฟฟ้า ทางด่วน และเป็นแหล่งธุรกิจสำคัญที่กำลังขยายตัว มีความต้องการที่อยู่อาศัยและพื้นที่เชิงพาณิชย์สูง ซึ่งจะผลักดันให้ราคาที่ดินเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในระยะยาว เหมาะสำหรับการลงทุนเพื่อปล่อยเช่าหรือขายต่อในอนาคต
  2. ทำเลบางนา เป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่น่าสนใจ ด้วยความได้เปรียบของทำเลที่ตั้ง ติดถนนบางนา-ตราด ใกล้ทางด่วนกาญจนาภิเษก มีรถไฟฟ้าสายสีเขียวให้บริการ อยู่ใกล้ห้างสรรพสินค้าและแหล่งงานจำนวนมาก ขณะเดียวกันก็มีบ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียมที่มีสภาพแวดล้อมและความปลอดภัยสูง เป็นทำเลที่เหมาะกับการอยู่อาศัยของคนทำงานและครอบครัว
  3. ทำเลรังสิต อยู่ไม่ไกลจากใจกลางเมือง มีรถไฟฟ้าสายสีแดงผ่าน เชื่อมต่อไปยังหลายพื้นที่ มีมหาวิทยาลัยและสถานศึกษาชั้นนำ เป็นย่านชุมชนและที่พักอาศัยขนาดใหญ่ของผู้มีรายได้ระดับกลางถึงล่าง แต่ปัจจุบันเริ่มมีการพัฒนาคอนโดมิเนียมส่งเสริมการลงทุน มีความต้องการเช่าสูงจากกลุ่มนักเรียน นักศึกษา คนทำงาน โดยราคายังไม่สูงมากนัก จึงเป็นอีกหนึ่งทำเลที่มีแนวโน้มการเติบโตดีในอนาคต
  4. ทำเลพัทยา เป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลก มีระบบคมนาคมขนส่งที่สะดวก ทั้งสนามบิน รถไฟความเร็วสูง มอเตอร์เวย์ มีแหล่งท่องเที่ยว ห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล และสถานบันเทิงครบครัน นอกจากจะเหมาะกับการอยู่อาศัยแล้ว ยังปล่อยเช่าให้นักท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมติดทะเลที่ได้รับความนิยมสูง มีศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนคุ้มค่า
  5. ทำเลเชียงใหม่ แม้จะอยู่ต่างจังหวัด แต่ก็เป็นทำเลที่มีการเติบโตของเศรษฐกิจสูง เป็นเมืองท่องเที่ยวและที่พักตากอากาศยอดนิยม มีสถานศึกษาและโรงพยาบาลชั้นนำ ได้รับความสนใจจากชาวต่างชาติเป็นอย่างมาก ตลาดอสังหาฯ มีทั้งบ้าน คอนโด และวิลล่าให้เลือกหลากหลาย ในย่านนิมมานเหมินท์ เชียงใหม่ตัวเมือง หางดง สันกำแพง ที่มีระบบสาธารณูปโภคครบครัน เหมาะกับการอยู่อาศัยและลงทุนเพื่อปล่อยเช่าระยะยาว

จะเห็นว่าทำเลที่มีโอกาสเติบโตสูง จะต้องมีทำเลที่ตั้งดี มีความต้องการของตลาดสูงทั้งด้านการอยู่อาศัยและการลงทุน มีความสะดวกในการคมนาคมและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน มีความปลอดภัย และมีแนวโน้มการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในอนาคต ซึ่งหากเลือกซื้อที่อยู่อาศัยในทำเลดังกล่าว ก็จะได้ทั้งบ้านที่อยู่สบายและโอกาสในการสร้างผลตอบแทนจากการขายหรือปล่อยเช่าได้ในระยะยาว